คุณแม่หลายท่าน ปรารถนาที่จะพัฒนาทักษะ ฝึกสมาธิให้ลูกรักโดยการปั้น แป้งโดว์เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับลูกน้อยไว้ใช้ปั้นเป็นตัวตุ๊กตา สิงห์สาราสัตว์เล่น แป้งโดว์มีข้อดีที่ลดความกังวลใจให้คุณแม่กรณีที่ลูกน้อยเผลอหยิบแป้งโดว์เข้าปากระหว่างเล่นได้..... วันนี้ทางบล็อก มีไอเดียเกี่ยวกับการทำแป้งโดว์สำหรับลูกน้อย มาฝากกันค่ะ
แป้งโดว์ ช่วยพัฒนาทักษะทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านกายภาพ เช่น กล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งในส่วนนี้ เด็กยุคใหม่จะเริ่มมีปัญหากันมาก เพราะเล่นแต่เกมคอมพิวเตอร์ และคลิกเมาส์อย่างเดียว ส่งผลให้จับปากกาไม่ได้ เพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กไม่แข็งแรง ส่วนด้านที่ 2 คือ เรื่องของ อารมณ์ งานปั้นแป้งโดว์จะช่วยฝึกสมาธิ ทำให้เด็กซน สามารถนั่งและจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำได้นานขึ้น นอกจากนี้ ยังจะช่วยในเรื่องของมิติสัมพันธ์ ทำให้เด็ก สามารถมองภาพที่เป็น 3 มิติ ได้ดีขึ้น
อุปกรณ์
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
น้ำมันพืีช 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/2 ถ้วย
ครีมออฟทาร์ทาร์ (cream of tartar) 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเดือด 1.5 ถ้วย
สีผสมอาหาร
กระปุกหรือถุงซิปล็อกสำหรับเก็บแป้งโดว์
เริ่มทำกันเลย
1.ผสมแป้ง เกลือ ครีมออฟทาร์ทาร์ และน้ำมันพืช ในถ้วย
2.เติมน้ำเดือด
3.คนส่วนผสมทั้งหมดจนกระทั่งแป้งเริ่มเหนียว และขึ้นเป็นโดว์
4.เติมสีผสมอาหาร (ซึ่งเป็น option เสริม) ลงไปผสม
5.เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเริ่มเย็นตัวลง เอาแป้งโดว์ออกจากถ้วยและบีบนวดซักพัก จนกว่าจะรู้สึกเหนียวได้ที่
เท่านี้ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ หากอยากได้สีม่วงอ่อน ก็ใช้สีผสมอาหารน้อยหน่อย
ก็จะได้แป้งโดว์สีม่วงจาง ๆ น่าใช้มากขึ้นค่ะ
เคล็ดลับเพิ่มเติม คือ
1.ถ้าเป็นแป้งเก่า เนื้อแป้งจะไม่เนียนละเอียด เล่นแล้วอาจรู้สึกไม่สบายมือ ควรใช้แป้งใหม่
2.ไม่ควรผสมน้ำเยอะ เพราะแป้งอาจจะเหลวจนเกินไป
3.ครีมออฟทาร์ทาร์หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นหูกับเท่าไหร่ ครีมออฟทาร์ทาร์เป็นส่วนผสมในการทำขนม เบเกอรี่ โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายวัตถุดิบทำขนม หรือตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป (ครีมออฟทาร์ทาร์จะช่วยยืดอายุให้สามารถเก็บแป้งได้นานขึ้น)
4.อายุการใช้งานของแป้งจริง ๆ อยู่ที่การเก็บรักษา หากเด็กเอาออกมาเล่นแล้วเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท ควรเก็บไว้ในที่แห้งและแสงแดดส่องไม่ถึง จะมีอายุใช้งานได้นานถึง 1-2 เดือน
5.ก่อนจะนำแป้งโดว์มาให้ลูกเล่นทุกครั้ง คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตซักนิดนะคะว่าแป้งเกินไปหรือแฉะเกินไปหรือไม่ หากทิ้งไว้แล้วแป้งแข็งให้หยอดน้ำต้มสุกใส่ลงไปนิดหน่อยแล้วนวดให้เข้ากัน หากแป้งแฉะติดมือเกินไปให้วางผึ่งลมซักพักค่อยนำมาปั้นใหม่
6.ควรเปลี่ยนแป้งโดว์ให้เด็กทุกเดือน เพราะแป้งโดว์ก็เหมือนอาหารที่ไม่ได้ใส่สารกันบูด และแป้งโดว์ที่ผ่านการเล่นแล้วเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่างๆ และถ้ามีเพื่อนมาเล่นด้วยกันหลายคนก็ควรเปลี่ยนแป้งโดว์ให้เด็กเร็วขึ้น
(กวนนิดหน่อยไม่ว่ากันนะคะ อิ อิ ^ ^)
Thank;
www.พัฒนาการเด็ก.com
http://www.wikihow.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น