การทำศัลยกรรมเพื่อความสวยงามบนใบหน้า เป็นอีกเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าจะหญิง-ชาย ทั้งคนแก่และหนุ่มสาว เรียกได้ว่า หากใครมีกำลังทรัพย์พอที่จะทำให้ตัวเองสวยได้ ก็อยากจะทำกันทั้งนั้น ทั้งนี้ ก็เพื่อเสริมบุคลิกภาพเพิ่มความมั่นใจยามพบปะสังคมภายนอกนั่นเอง ในปัจจุบันโบท็อกซ์ (Botox) ก็กำลังเป็นที่นิยมของวัยรุ่นมากขึ้น
โบทูลินั่ม ท็อกซิน (อังกฤษ: Botulinum toxin) หรือชื่อการค้ารู้จักกันชื่อว่า โบท็อกซ์(Botox) ที่นำมาใช้เสริมความงาม เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) มี 7 ชนิด คือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด เอ (botulinum toxin type A) ถึงโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด จี (botulinum toxin type G) จัดเป็นสารพิษออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (neurotoxin) โดยจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราว แต่ในปัจจุบัีนก็มีการนำ botulinum toxin มาใช้ในการเสริมความงาม
นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง เปิดเผยว่า การฉีดโบท็อกซ์คือ การฉีดสารเติมเต็มในส่วนที่ผู้ฉีดต้องการให้กลับมาเต่งตึง เช่น หน้าผาก หางตา ข้างปาก และคาง เป็นต้น เนื่องจากเป็นบริเวณที่มักพบรอยเหี่ยวย่นง่าย ซึ่งขณะนี้การฉีดโบท็อกซ์เพื่อความงามกำลังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง
นพ.จินดา กล่าวอีกว่า สำหรับวิธีการเลือกฉีดโบท็อกซ์ ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย คือ 1. แพทย์ที่ฉีดต้องเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและแพทย์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น 2. สถานที่ฉีดต้องสะอาด ปลอดภัย และมีเครื่องช่วยชีวิตเบื้องต้น เช่น เครื่องช่วยหายใจ ที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ไม่ควรไปฉีดเองตามห้องเช่า หรือคอนโด เพราะหากเกิดกรณีฉุกเฉินจะไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน และมีความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตได้ และ 3. สารที่ใช้ฉีดต้องเป็นสารที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดในการฉีดจะได้สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากยาที่ได้มาตรฐานมักจะทำยาสำหรับแก้ไขกรณีผิดพลาดควบคู่มาด้วย
“การฉีดโบท็อกซ์เป็นเรื่องธรรมดาที่มักจะพบอาการแทรกซ้อน ดังนั้น กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มคนที่มีประวัติแพ้ง่าย กลุ่มคนที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก และกลุ่มที่มีอาการเนื้อเยื้อหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรที่จะฉีดโบท็อกซ์เด็ดขาด เพราะจะแพ้ง่ายและอาจเกิดอันตรายมากกว่ากลุ่มอื่น” นพ.จินดา กล่าว
ก่อนฉีดโบท็อกซ์ทุกครั้ง ผู้ที่จะทำการฉีดต้องสอบถามยี่ห้อและชนิดของยาก่อน เนื่องจากหากเกิด ข้อผิดพลาดจะได้รู้ว่ายาที่ใช้ฉีดเป็นยาชนิดไหนและประเภทใด เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้หาทางแก้ไขได้ทัน นอกจากนี้ ก่อนรับการฉีดก็ควรที่จะศึกษาข้อมูลของแพทย์และสถานที่ที่จะไปฉีดด้วย รวมถึงหาข้อมูลจากหลาย ๆ แห่งก่อนตัดสินใจฉีด
หากหลา่ย ๆ คนเลือกที่จะสวย แต่ทำอย่างไรให้สวยได้อย่างปลอดภัย บทความนี้อาจช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ^ ^
Thank;
http://th.wikipedia.org
http://www.thaihealth.or.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น