เว็บหนัง พร้อมสาระและความบันเทิงครบครัน
เว็บที่ให้ได้ มากกว่าที่คุณคิด
เว็บอาจโดนบล็อค โปรดกด Like Fanpage เพื่อติดตามที่อยู่เว็บ
ขณะนี้เว็บกำลังปรับปรุง ขออภัยท่านผู้เข้าชม ในความไม่เป็นระเบียบของรูปแบบเว็บด้วยนะคะ ^ ^

ค้นหาส่ิ่งที่คุณสนใจได้เลยจ้า

เพลงแนะนำ ตามกระแส


วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ขนมเด็ก(อาจมีกาเฟอีน)...เรื่องที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

ปัจจุบันกาเฟอีนในอาหารที่คนไทยรับประทานไม่ใช่มีเฉพาะน้ำชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมที่มีน้ำสีดำอย่างที่เข้าใจกันแต่ในขนม และลูกอมต่างๆ เช่น ขนมเวเฟอร์ เค้กคุกกี้ ลูกอมต่าง ๆ นม ไอศกรีม ก็ยังพบว่ามีกาเฟอีนผสมอยู่ ซึ่งมีผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็ก นับเป็นเรื่องที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม มีผลต่อพัฒนาการของเด็กอย่างไร ติดตามต่อในบทความค่ะ
















กาเฟอีน เป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทและมีผลกระทบต่อภาวะโภชนาการรวมถึงพัฒนาการของเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กวัยเรียนซึ่งอยู่ในวัยที่กำลังเจริญเติบโต 
สำหรับสถานการณ์การบริโภคกาเฟอีนในเด็กไทย จากข้อมูลการสำรวจสภาวะพฤติกรรมสุขภาพเยาวชนอายุ 6-15 ปีของกองสุขศึกษา พบว่า เด็กและเยาวชนยังคงดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำทุกวัน10.5 เปอร์เซ็นต์ ดื่ม 5-6 วันต่อสัปดาห์ 28.4 เปอร์เซ็นต์ดื่ม3-4 วันต่อสัปดาห์ 26.1 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังหันมารับประทานช็อกโกแลต เค้ก คุกกี้ ไอศกรีม โดยคนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ามีกาเฟอีนผสมอยู่ ส่งผลให้มีปัญหาความจำและสติปัญญาถดถอย บางรายสมาธิสั้นไม่สามารถจดจำข้อมูลและเรื่องราวที่เกิดขึ้นฉับพลันได้เป็นเวลานาน เด็กมักจะเหม่อลอย ไม่สนใจเรียน หากบริโภคติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้สารกาเฟอีนเข้าไปทำลายจิตประสาท และความจำบางส่วนได้
นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาปริมาณการบริโภคคาเฟอีนจากขนมและลูกอมในแต่ละวันของเด็กจากมหาวิทยาลัยมหิดล โดยทำการศึกษาเด็ก 2 กลุ่ม คือ ในกลุ่มอายุ 7-11 ปี และอายุ 12-17 ปี พบว่า เด็กอายุ 7-11 ปี มีพฤติกรรมกินขนมและลูกอมรวมสูงสุดใน 1 วัน 392.8 กรัม ทำให้ได้รับกาเฟอีนเฉลี่ย 60.8 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนในกลุ่มอายุ 12-17 ปี กินขนมและลูกอมรวมกัน 209.2 กรัม ทำให้ได้รับกาเฟอีนเฉลี่ย 23.1 มิลลิกรัมต่อวัน โดยในลูกอมรสกาแฟมีกาเฟอีน 2.7-3.2 มิลลิกรัมต่อเม็ด ลูกอมรสช็อกโกแลตมีกาเฟอีน 0.16 มิลลิกรัมต่อเม็ด นมรสช็อกโกแลตมีกาเฟอีน 12-14 มิลลิกรัมต่อกล่อง ขนมเวเฟอร์รสกาแฟมีกาเฟอีน 1.1-1.3 มิลลิกรัมต่อชิ้นและกาแฟมีคาเฟอีน 80-100 มิลลิกรัมต่อแก้ว
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ขนาดของกาเฟอีนที่ทำให้เสียชีวิตได้ในเด็กเล็กประมาณ 100 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม นั่นหมายความว่า ถ้าเด็กหนัก10 กิโลกรัม ปริมาณกาเฟอีนที่จะทำให้เสียชีวิต คือ1,000 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมาก แต่ในทางปฏิบัติจริงคงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ถ้าดูว่าการได้รับกาเฟอีนของเด็กอายุต่างๆ ในช่วง 7-17 ปีนั้นจะพบว่า เด็กกินขนมทุกอย่าง (ยังไม่รวมน้ำอัดลมสีน้ำตาลดำและนมรสกาแฟหรือช็อกโกแลต) การได้รับกาเฟอีนยังไม่มากจนทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่ทางที่ดีเด็กไม่ควรได้รับกาเฟอีนเกินวันละ 2.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แสดงว่า ถ้าเด็กมี      น้ำหนักตัวประมาณ 10-15 กิโลกรัม ก็ไม่ควรได้รับกาเฟอีนเกิน25-40 มิลลิกรัมต่อวัน "ทุกวันนี้พฤติกรรมของเด็กไทยเปลี่ยนไปมากโอกาสที่เด็กจะได้รับกาเฟอีนจากแหล่งอื่นๆมีมากขึ้นส่งผลให้เด็กได้รับกาเฟอีนในแต่ละวันเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและภาวะโภชนาการของเด็ก ซึ่งจะทำให้เด็กไทยมีโอกาสอ้วนมากขึ้น เพราะขนมเหล่านี้มีน้ำตาลและไขมันสูง ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของเด็กคุณพ่อคุณแม่ควรดูแลเอาใจใส่เกี่ยวกับการเลือกบริโภคขนมและลูกอมตลอดจนคำนึงถึงปริมาณในการบริโภคขนมและลูกอมในแต่ละวันด้วย"
Thank;SCIMATH

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น