เว็บหนัง พร้อมสาระและความบันเทิงครบครัน
เว็บที่ให้ได้ มากกว่าที่คุณคิด
เว็บอาจโดนบล็อค โปรดกด Like Fanpage เพื่อติดตามที่อยู่เว็บ
ขณะนี้เว็บกำลังปรับปรุง ขออภัยท่านผู้เข้าชม ในความไม่เป็นระเบียบของรูปแบบเว็บด้วยนะคะ ^ ^

ค้นหาส่ิ่งที่คุณสนใจได้เลยจ้า

เพลงแนะนำ ตามกระแส


วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

How to use immunosuppresants safety? (คำแนะนำในการใช้ยากดภูมิคุ้มกัน)



ยาที่ใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)หรือโรคไตบางชนิด อาจจำเป็นต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressants)ในการรักษา เช่น Prednisolone (เพร็ดนิโซโลน), Azathioprine (เอซาไธโอพรีน) ซึ่งหากคุณใช้ยาเหล่านี้ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงและอันตรายที่รุนแรงตามมาได้ ลองมาอ่่านบทความนี้กันค่ะว่าเราต้องปฏิบัติตัวอย่างไรในการรับประทานยาประเภทนี้



คำแนะนำการใช้ยาทั่วไป
1. อ่านฉลากยาโดยละเอียดและปฏิบัติตามวิธีการใช้ยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
2. เก็บยาไว้ในที่มิดชิด ไม่ปะปนกับยาอื่นๆ และเก็บให้ห่างจากมือเด็ก
3. ไม่ใช้ยาที่หมดอายุหรือยาที่มีลักษณะหรือสีเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
4. ไม่ใช้ยาร่วมกันกับผู้อื่น ไม่ใช้ยาที่ไม่มีฉลากบ่งชี้แม้ว่ายาจะมีลักษณะคล้ายกัน
5. แจ้งแพทย์ทุกครั้งว่าตนมีประวัติการแพ้ยาใดบ้าง

คำแนะนำพิเศษในการใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
1. หากมีอาการผิดปกติใดๆ ให้หยุดยาและรีบปรึกษาแพทย์ เช่น มีผื่น ไข้ แผลในปาก คลื่นไส้อาเจียน  ตัวเหลือง  ตาเหลือง
2. ยากดภูมิคุ้มกันหลายๆชนิดมีผลกดการกระทำงานของไขกระดูกอาจทำให้มีโลหิตจาง เม็ดเลือดขาวและเกร็ด  เลือดต่ำได้ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ซีด มีไข้ไม่สบายหรือมีจ้ำเลือด ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
3. หากรับประทานยาเกินขนาด ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
4. ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เนื่องจากยาบางชนิดมีปฏิกิริยาต่อกัน ทำให้เพิ่มความเป็นพิษของยาได้และควร  แจ้งแพทย์ผู้ทำการรักษาทุกครั้งว่าตนเองมีโรคประจำตัวใดหรือรับประทานยาใดอยู่บ้าง
5. ระหว่างที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกันอยู่ มีข้อควรระวังในการรับวัคซีนบางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนที่มี  เชื้อมีชีวิต (Live attenuated vaccine) จึงควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนรับวัคซีน
6. หากลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันที่ที่นึกได้ ยกเว้นว่าใกล้ถึงเวลารับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่ต้อง เพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
7. ระหว่างที่รับประทานยา ต้องคุมกำเนิดและเว้นการให้นมบุตร หากตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ ให้รีบ ปรึกษาแพทย์ผู้ดูแล
8. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้หรือสัมผัสกับผู้ป่วยที่ไม่สบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อีสุกอีใส ไข้ออกผื่น หัด วัณโรค  เป็นต้น และถ้าสัมผัสกับผู้ป่วยดังกล่าว ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

ข้อควรระวังพิเศษ สำหรับยาแต่ละชนิด ได้แก่
เพร็ดนิโซโลน (Prednisolone)
เป็นยาในกลุ่มสเตียรรอยด์ ใช้ในการรักษาโรคตุ่มน้ำพอง, โรคภูมิแพ้ผิวหนัง, โรคเอสแอลอี (SLE)
เป็นต้น มีผลข้างเคียงที่สำคัญ นอกเหนือจากฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน ดังนี้
1. ผลข้างเคียงเหล้านี้เป็นผลข้างเคียงที่เกิดได้บ่อย แต่มักไม่เป็นอันตรายรุนแรง หากไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์ เช่น อ้วน น้ำหนักเพิ่ม ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น บวม หน้ากลม เป็นสิว ผิวแตกลาย เป็นต้น ผู้ป่วยควรควบคุมน้ำหนัก โดยเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ได้แก่ ผักและผลไม้ที่มีรสชาติไม่หวาน เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล แก้วมังกร มะละกอ เป็นต้น
2. ระคายกระเพาะอาหารและอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ ดังนั้น แพทย์จะสั่งยาลดกรดควบคู่ไปด้วยกรณีที่ต้องรับประทานยาในขนาดสูง นอกจากนี้ผู้ป่วยควรรับประทานยาหลังอาหารทันทีและดื่มน้ำตามมากๆ หากมีอาการอาเจียนหรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำหรือเป็นเลือด มีอาการซีด หน้ามืด วิงเวียน ให้รีบไปพบแพทย์
3. กระดูกบาง หากใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งแพทย์จะพิจารณาให้รับประทานแคลเซียมและวิตามินดีเสริมหรือยาที่ช่วยลดการสลายตัวของกระดูกควบคู่ไปด้วย
4. ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ในบางรายและทำให้การควบคุมน้ำตาลยากขึ้นได้ในผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งแพทย์จะพิจารณาตรวจน้ำตาลและให้การดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ปัสสาวะบ่อย ควรรายงานให้แพทย์ทราบ
5. หากรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานาน มีฤทธิ์กดการทำงานของต่อมหมวกไตได้ ดังนั้น ไม่ควรหยุดยาเพร็ดนิโซโลนเอง ควรลดยาตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น
เมโธเทรกเซท (Methotrexate)
เป็นยาที่มีประสิทธิภาพดีและนิยมใช้ในการรักาโรคสะเก็ดเงิน มีข้อควรระวังเป็นพิเศษดังนี้
1. รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่ดครัด โยปกติแพทย์จะสั่งให้รับประทานยาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เท่านั้น การรับประทานยาทุกวันจะเป็นการได้รับยาเกินขนาด เป็นพิษต่อตับ กดการสร้างเกร็ดเลือด เม็ดเลือดขาวและแดง อาจเป็นอันตรายรุนแรงได้
2. ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากทำให้เพิ่มพิษต่อตับได้
3. หากมีอาการผิดปกติ เช่น แผลเจ็บในปาก ท้องเสีย มีผื่นขึ้น ให้หยุดยาทันทีและรีบพบแพทย์
เอซาไธโอพรีน (Azathioprine)
เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคตุ่มน้ำพอง โรคเอสแอลอี นอกเหนือจากฤทธิ์กดภูมิคุ้มกันแล้ว    อาจมีฤทธิ์กดการทำงานของไขกระดูก กดการสร้างเกร็ดเลือด, เม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดงและอาจยังมีผลข้างเคียงคือเป็นพิษต่อตับได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และหากมีแผลในปาก อ่อนเพลียผิดปกติหรือตัวเหลือง เหลือง ให้รีบไปพบแพทย์
ไซโคลสปอริน (Cyclosporin)
 เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคสะเก็ดเงินและโรคผื่นผิวหนังอักเสบภูมิแพ้
1. ห้ามรับประมานยากับผลไม้ Grapefruit เนื่องจากทำให้ระดับยาในเลือดสูงขึ้นและอาจเป็นพิษได้
2. ผลข้างเคียงที่สำคัญ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง และเป็นพิษต่อไต จึงควรใช้ยาและติดตามการรักษากับแพทย์อย่างเคร่งครัด
ไซโคลฟอสฟาไมด์ (Cyclophosphamild)
เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคตุ่มน้ำพอง มีผลข้างเคียงที่สำคัญ คือ ทำให้เกิดภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบแบบมีเลือดออกได้ (Hemorrhagic cystitis) ดังนั้น ควรรับประทานยาในช่วงเช้าและดื่มน้ำมากๆ ทั้งก่อนและหลังรับประทานยา ประมาณ 2-3 ลิตรต่อวัน
ขอขอบคุณที่มา :http://www.ra.mahidol.ac.th/th/dpt/MD/know12-skin-08

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น