กลิ่นปาก (Bad breath หรือ Halitosis) เป็นภาวะที่ลมปากและลมหายใจเกิดมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งภาวะมีกลิ่นปากนี้พบได้ในทุกอายุ ซึ่งกลิ่นปากจะสร้างความกังวลให้แก่คุณไม่น้อย เพราะเจ้ากลิ่นปากจะทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องอยู่ใกล้กับผู้อื่ืนหรือเมื่อคุณต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เราจะมีวิูธีป้องกันและดูทำอย่้างไรเมื่อคุณเริ่มมีกลิ่้นปาก วันนี้เรามีคำตอบค่ะ ^ ^
กลิ่นปากเกิดได้อย่างไร?
สาเหตุภายในช่องปาก ได้แก่
1.โรคปริทนต์
-โรคปริทนต์อักเสบ เป็นโรคที่มีการอักเสบของอวัยวะที่อยู่รอบๆฟัน มีการทำลายเนื่อเยื่อทำให้มีหนองและการบูดเน่าของเนื้อเยื่อที่ตายนอกจากนี้ อาจเกิดจากช่องว่างระหว่างเหงือกกับฟันเป็นที่กักขังของเศษอาหารและเชื้อโรคเกิดจากการหมักหมมทำให้เกิดกลิ่นได้
-โรคเหงือกอักเสบ มีกลิ่นเหม็นจากเหงือกที่อักเสบและการมีเลือดออก
2. โรคฟันผุ
3. แผลในช่องปาก โดยเฉพาะแผลมะเร็งจะมีกลิ่นรุนแรงที่สุด
4. กลิ่นจากภายหลังการผ่าตัดในช่องปากหรือถอนฟัน ซึ่งผู้ป่วยต้องทนทานอาหารอ่อนๆ ไม่ได้ใช้ฟันเคี้ยวตามปกติร่วมกับมีการบูดเน่าของเลือดบริเวณแผลด้วย
5. ละเลยต่อการทำความสะอาดช่องปาก
6.สูบบุหรี่
2.จากการที่ร่างกายรับสารมีกลิ่น ซึ่งถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดแล้วขับออกมาทางลมหายในเช่น- อาหารบางชนิด เช่น หอม สะตอ กระเทียม ฯลฯ
3.โรคที่เกิดจากการเผาผลาญที่ผิดปกติ เช่น เบาหวาน
4.โรคอื่น ๆ เช่น โรคกรดไหลย้อนหรือโรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ
รักษาภาวะกลิ่นปากได้อย่างไร?
แนวทางการรักษากลิ่นปาก คือ การดูแลความสะอาดของช่องปากและฟัน ร่วมกับการรักษาสาเหตุ เช่น การรักษาโรคฟันผุหรือการรักษาโรคเบาหวาน โรคกรดไหลย้อนหรือโรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ
มีผลข้างเคียงจากภาวะมีกลิ่นปากไหม? กลิ่นปากรุนแรงไหม?
ผลข้างเคียงจากภาวะมีกลิ่นปาก คือ ปัญหาด้านอารมณ์/จิตใจ ที่เกิดจากปัญหาในการเข้าสังคม
ดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไร?
-รักษาความสะอาดช่องปากและฟันเสมอ ด้วยการแปรงฟันวันละอย่างน้อย 2 ครั้ง คือ เมื่อตื่นนอนเช้า และก่อนเข้านอน รวมทั้งการแปรงลิ้นและรู้จักใช้ไหมขัดฟันเสมอหลังอาหารทุกมื้อและก่อนการแปรงฟัน
-รักษาความสะอาดฟันปลอม
-รักษาควบคุมโรคต่างๆที่เป็นสาเหตุ
-เลิกบุหรี่ ไม่สูบบุหรี่
ควรพบทันตแพทย์
-เมื่อดูแลตนเองแล้วยังมีกลิ่นปาก
-มีแผลเรื้อรังในช่องปาก
-ปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน
-กังวลในเรื่องของกลิ่นปาก
-พบทันตแพทย์ตามทันตแพทย์แนะนำ (ถ้าเคยพบทันตแพทย์แล้ว)
ป้องกันกลิ่นปากได้อย่างไร?
การป้องกันกลิ่นปาก ที่สำคัญ คือ
-การรักษาความสะอาดช่องปากและฟัน-การเลิกบุหรี่ การไม่สูบบุหรี่
-กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบทุกวัน เพื่อความแข็งแรงของเนื้อเยื่อของช่องปากและฟัน
-ป้องกัน ดูแลรักษาโรคที่อาจเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก
-พบทันตแพทย์สม่ำเสมอทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี ขึ้นกับสุขภาพช่องปากและฟันของแต่ละคนหรือตามทันตแพทย์แนะนำ
Thank;
http://haamor.com (ผู้เขียนบทความโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ)
http://www.dt.mahidol.ac.th(คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น