เว็บหนัง พร้อมสาระและความบันเทิงครบครัน
เว็บที่ให้ได้ มากกว่าที่คุณคิด
เว็บอาจโดนบล็อค โปรดกด Like Fanpage เพื่อติดตามที่อยู่เว็บ
ขณะนี้เว็บกำลังปรับปรุง ขออภัยท่านผู้เข้าชม ในความไม่เป็นระเบียบของรูปแบบเว็บด้วยนะคะ ^ ^

ค้นหาส่ิ่งที่คุณสนใจได้เลยจ้า

เพลงแนะนำ ตามกระแส


วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

ทำอย่างไรดีนะ? กับกลิ่นปาก (Bad breath) น่ารำคาญ

กลิ่นปาก (Bad breath หรือ Halitosis) เป็นภาวะที่ลมปากและลมหายใจเกิดมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งภาวะมีกลิ่นปากนี้พบได้ในทุกอายุ ซึ่งกลิ่นปากจะสร้างความกังวลให้แก่คุณไม่น้อย เพราะเจ้ากลิ่นปากจะทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องอยู่ใกล้กับผู้อื่ืนหรือเมื่อคุณต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เราจะมีวิูธีป้องกันและดูทำอย่้างไรเมื่อคุณเริ่มมีกลิ่้นปาก วันนี้เรามีคำตอบค่ะ  ^ ^










กลิ่นปากเกิดได้อย่างไร?


สาเหตุภายในช่องปาก ได้แก่

1.โรคปริทนต์

-โรคปริทนต์อักเสบ เป็นโรคที่มีการอักเสบของอวัยวะที่อยู่รอบๆฟัน มีการทำลายเนื่อเยื่อทำให้มีหนองและการบูดเน่าของเนื้อเยื่อที่ตายนอกจากนี้ อาจเกิดจากช่องว่างระหว่างเหงือกกับฟันเป็นที่กักขังของเศษอาหารและเชื้อโรคเกิดจากการหมักหมมทำให้เกิดกลิ่นได้

-โรคเหงือกอักเสบ มีกลิ่นเหม็นจากเหงือกที่อักเสบและการมีเลือดออก
2. โรคฟันผุ

3. แผลในช่องปาก โดยเฉพาะแผลมะเร็งจะมีกลิ่นรุนแรงที่สุด

4. กลิ่นจากภายหลังการผ่าตัดในช่องปากหรือถอนฟัน ซึ่งผู้ป่วยต้องทนทานอาหารอ่อนๆ ไม่ได้ใช้ฟันเคี้ยวตามปกติร่วมกับมีการบูดเน่าของเลือดบริเวณแผลด้วย

5. ละเลยต่อการทำความสะอาดช่องปาก

6.สูบบุหรี่

 สาเหตุภายนอกช่องปาก ได้แก่

1.จากโรคของอวัยวะใกล้เคียง เช่น โรคของช่องจมูกโพรงอากาศอักเสบ โรคไซนัส ทอนซิลอักเสบ โรคของปอดและหลอดลม

2.จากการที่ร่างกายรับสารมีกลิ่น ซึ่งถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดแล้วขับออกมาทางลมหายในเช่น- อาหารบางชนิด เช่น หอม สะตอ กระเทียม ฯลฯ

3.โรคที่เกิดจากการเผาผลาญที่ผิดปกติ เช่น เบาหวาน

4.โรคอื่น ๆ เช่น โรคกรดไหลย้อนหรือโรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ

รักษาภาวะกลิ่นปากได้อย่างไร?


แนวทางการรักษากลิ่นปาก คือ การดูแลความสะอาดของช่องปากและฟัน ร่วมกับการรักษาสาเหตุ เช่น การรักษาโรคฟันผุหรือการรักษาโรคเบาหวาน โรคกรดไหลย้อนหรือโรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ

มีผลข้างเคียงจากภาวะมีกลิ่นปากไหม? กลิ่นปากรุนแรงไหม?


ผลข้างเคียงจากภาวะมีกลิ่นปาก คือ ปัญหาด้านอารมณ์/จิตใจ ที่เกิดจากปัญหาในการเข้าสังคม

ดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไร?


การดูแลตนเองและการพบแพทย์เมื่อมีกลิ่นปาก ได้แก่
-ล้างปาก บ้วนปาก แปรงฟัน อมลูกอม เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือสเปรย์ช่องปาก โดยเฉพาะหลังกินอาหารมีกลิ่น

-รักษาความสะอาดช่องปากและฟันเสมอ ด้วยการแปรงฟันวันละอย่างน้อย 2 ครั้ง คือ เมื่อตื่นนอนเช้า และก่อนเข้านอน รวมทั้งการแปรงลิ้นและรู้จักใช้ไหมขัดฟันเสมอหลังอาหารทุกมื้อและก่อนการแปรงฟัน

-รักษาความสะอาดฟันปลอม

-รักษาควบคุมโรคต่างๆที่เป็นสาเหตุ

-เลิกบุหรี่ ไม่สูบบุหรี่

ควรพบทันตแพทย์ 

-เมื่อดูแลตนเองแล้วยังมีกลิ่นปาก

-มีแผลเรื้อรังในช่องปาก

-ปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน

-กังวลในเรื่องของกลิ่นปาก

-พบทันตแพทย์ตามทันตแพทย์แนะนำ (ถ้าเคยพบทันตแพทย์แล้ว)

ป้องกันกลิ่นปากได้อย่างไร?

การป้องกันกลิ่นปาก ที่สำคัญ คือ
-การรักษาความสะอาดช่องปากและฟัน
-การเลิกบุหรี่ การไม่สูบบุหรี่
-กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบทุกวัน เพื่อความแข็งแรงของเนื้อเยื่อของช่องปากและฟัน
-ป้องกัน ดูแลรักษาโรคที่อาจเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก 
-พบทันตแพทย์สม่ำเสมอทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี ขึ้นกับสุขภาพช่องปากและฟันของแต่ละคนหรือตามทันตแพทย์แนะนำ

Thank;
http://haamor.com (ผู้เขียนบทความโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ)
http://www.dt.mahidol.ac.th(คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น