อย่างที่เรารู้ ๆ กันอยู่ว่า ยุง เป็นแมลงที่เป็นพาหะแพร่เชื้อโรค เช่น ไข้เลือดออก มาสู่มนุษย์ ดังนั้น เราจึงควรหลีกเลี่ยงเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้ เอ...แล้วเราจะใช้อะไรไล่ยุงดีนะ นอกจากการใช้ยากันยุงที่ซื้อมาใช้ ซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่อยากใช้เพราะกลัวอันตราย ได้มีโอกาสอ่านบทความเกี่ยวกับ "สมุนไพรไล่ยุง" หลา่ยบทความซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเว็บไซด์นะคะ เลยเอามาฝากกันให้อ่านค่ะ
ข้อมูลจากหน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งกล่าวตอบคำถามแก่ผู้รับบริการคำถามด้านสมุนไพรไว้ว่า "สมุนไพรที่มีรายงานการวิจัยเกี่ยวกับการไล่ยุง นอกจากส้มและสะระแหน่ ยังมีสมุนไพรอื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น ตะไคร้หอม โหระพา กระเพรา ยูคาลิปตัส เป็นต้น สารสำคัญที่มีฤทธิ์ไล่ยุงในเปลือกส้ม สะระแหน่ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกน้ำมันหอมระเหย เช่น ρ-cymene, α-, β-pinene, ocimene, citral, limonene เป็นต้น" จากบทความข้างต้นทำให้ทราบได้ว่า สมุนไพรมีฤทธิ์ไล่ยุงมีอยู่มากมายหลายชนิดใกล้ตัวเราทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำมันมาทำประโยชน์ได้อย่างไร หากไม่เน้นความสวยงามมากนัก วิํธีการง่าย ๆ ก็คือ นำตะไคร้หอม มาทุบซัก 3-4 หัว มาวางใกล้ ๆ ตัวเราเพื่อป้องกันยุง ก็น่าจะเวิร์คแล้วนะคะ ^ ^
ปล.ที่ควรอ่านต่อ : บางบ้านไม่มีตะไคร้หอมจะเอาตะไคร้เครื่องแกงมาไล่ยุง มันไม่เวิร์คนะคะ เพราะน้ำมันตะไคร้หอม (citronella oil) มีสารสำคัญคือ citronella ซึ่งมีสรรพคุณไล่ยุงและแมลง
ส่วนน้ำมันตะไคร้เครื่้องแกง (lemon grass oil) มีสารสำคัญชื่อ citral ซึ่งมีกลิ่นหอมแรง สดชื่นใช้ในวงการอุตสาหกรรมสบู่ ยาดับกลิ่น ใช้ผสมในน้ำมันนวดแก้เครียด ลดอาการเหงื่อออกมาก แก้ปวดเมื่อย ลดไข้ ต้นและก้านใบต้มน้ำอาบ บรรเทาปวดและอักเสบจากโรคไขข้อ หรือดื่มเป็นยาแก้ท้องอืด แก้หวัด หายใจโล่ง บำรุงธาตุ ขับปัสสาวะ ปรับประจำเดือน น้ำคั้นต้นตะไคร้ดื่มช่วยสร่างเมา ทำให้เบื่อเหล้า ชงเป็นชาแก้ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ซึ่งสรรพคุณแตกต่างกันนะคะ ^ ^
หากจะนำไปใช้เพื่อไล่ยุงแต่ต้องการทำให้สวยงามก่อนนำไปใช้ ก็อาจจะทำเป็นสเปรย์ไล่ยุง หรือไม่ก็เทียนหอมไล่ยุงก็น่าจะดีไม่น้อย ลองดู link ที่สอนการทำเทียนหอมจากตะไคร้หอม http://www.youtube.com/watch?v=ChrXHFFTsB4 ลองไปทำดูนะคะได้ผลอย่างไร ก็เม้นต์มาบอกกันบ้างนะคะ ^ ^
Thank;
http://www.medplant.mahidol.ac.th/user/reply.asp?id=5996(สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล)
http://www.mohanamai.com/UserFiles/File/mnm19-4/P.42-48.pdf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น