เว็บหนัง พร้อมสาระและความบันเทิงครบครัน
เว็บที่ให้ได้ มากกว่าที่คุณคิด
เว็บอาจโดนบล็อค โปรดกด Like Fanpage เพื่อติดตามที่อยู่เว็บ
ขณะนี้เว็บกำลังปรับปรุง ขออภัยท่านผู้เข้าชม ในความไม่เป็นระเบียบของรูปแบบเว็บด้วยนะคะ ^ ^

ค้นหาส่ิ่งที่คุณสนใจได้เลยจ้า

เพลงแนะนำ ตามกระแส


วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2556

ไวรัสเริม

ผู้ที่มีความเครียด ร่างกายมักจะอ่อนแอ หากพักผ่อนไม่เพียงพออาจทำให้เกิดโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์หรือเริมได้ ปัญหาของโรคเริม คือ การกลับเป็นซ้ำทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ขาดความมั่นใจ รู้สึกไม่สวยงาม เราต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเป็นเริมและเรามีวิธีป้องกันการกลับเป็นซ้ำได้อย่างไร ติดตามได้ในบทความโดยความรู้ส่วนหนึ่งได้มาจากการอ่านบทความของท่านผศ.นพ.สุมนัส  บุณยะรัตเวช  ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ท่านเคยเขียนบทความเอาไว้ ....








ลักษณะของเริม





เริมมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำขนาดเล็ก พองใส มีขอบแดง มักขึ้นรวมกันเป็นกลุ่ม และตุ่มน้ำนี้จะแตกเป็นแผลถลอกตื้นๆ และหายไปในที่สุด พบได้บ่อยบริเวณริมฝีปาก และบริเวณอวัยวะเพศ ก้น 

อาการ

การติดเชื้อครั้งแรก อาการจะค่อนข้างรุนแรง  มีไข้ปวดเมื่อย ต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียงมีการอักเสบ  เช่น  ถ้าเป็นเริมที่อวัยวะเพศ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบอักเสบ ถ้าเป็นเริมที่ริมฝีปาก ต่อมน้ำเหลืองที่คออักเสบ เชื้อไวรัส “เฮอร์ปีส์” หรือเริม กระจายสู่ผู้อื่นได้ด้วยการสัมผัสทางกาย  การจูบ การมีเพศสัมพันธ์ โดยเชื้อจะแทรกเข้าทางเยื่อบุหรือผิวหนังที่ถลอกเป็นแผล แล้วก่อให้เกิดผื่นเริมใน 2-20 วันหลังรับเชื้อ หรือในรายที่มีร่างกายแข็งแรงอาจไม่ปรากฏรอยโรคเริมเลยก็ได้  หลังจากนั้นเชื้อจะหลบแฝงตัวที่ปมประสาท จนกว่าจะถูกกระตุ้น ก็จะกลับมาเป็นโรคเริมอีกครั้ง ผู้ที่เคยเป็นโรคเริมแล้ว จะมีโอกาสเกิดโรคเริมซ้ำในตำแหน่งเดิมได้บ่อย

อะไรคือ “ตัวกระตุ้น” โรคเริมให้เกิดซ้ำ ?

ตัวกระตุ้น” ดังกล่าวได้แก่ ภาวะที่ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำลง พักผ่อนไม่เพียงพอ อ่อนเพลียขาดสารอาหาร ความเครียด วิตกกังวล ผู้หญิงใกล้มีประจำเดือน ผิวหนังอักเสบ เสียดสีกับเครื่องแต่งกายรัด ๆ การหลีกเลี่ยง ตัวกระตุ้น” เหล่านี้อาจทำให้การเกิดเป็นซ้ำของเริมห่างออกไป

ปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเป็นโรคเริม ?

-หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลเริม เพราะอาจแพร่เชื้อไปสู่บริเวณอื่นของร่างกายหรือติดต่อผู้อื่นได้
-ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ หลังเข้าห้องน้ำ อย่าขยี้ตา
-เมื่อมีแผลเริมที่ริมฝีปาก ห้ามจูบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก ผู้หญิงมีครรภ์
-งดการมีเพศสัมพันธ์ ตั้งแต่เริ่มมี อาการเตือน” จนกระทั่งแผลหาย เพราะเป็นช่วงปล่อยเชื้อ ถึงแม้ใช้ถุงยางอนามัยก็ไม่ปลอดภัย 100%
-เชื้อไวรัสเริมชอบอากาศร้อนชื้นเหงื่อออกง่ายและเกลียดความแห้งสะอาด อย่าใช้สิ่งใดๆ ไปปิดหรือพันบริเวณแผลเริม ความแห้งและอากาศที่ถ่ายเทได้ดีจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น พยายามซับและดูแลแผลให้แห้งตลอดเวลา
-ถ้าตุ่มน้ำใสแตกออกมา ให้ทำความสะอาดแผลเริมด้วยน้ำสบู่และน้ำสะอาดก็เพียงพอแล้ว
-อย่าแกะสะเก็ดแผลเริม ไม่ได้ช่วยให้หายเร็วขึ้นเลย
-สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่คับแต่หลวมสบายอากาศถ่ายเทสะดวก
-การใส่ชุดชั้นในที่เป็นไนลอนจะทำให้อับชื้นง่าย ควรใช้เสื้อผ้าที่มาจากใยธรรมชาติก็จะโล่งโปร่งสบาย
-อย่าใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่นจะได้ไม่แพร่เชื้อต่อไป
-หากมีแผลบริเวณปากช่องคลอด จะปวดแสบแผลเวลาปัสสาวะได้ การนั่งแช่ก้นในน้ำอุ่นจะบรรเทาปวดแสบได้

ในปัจจุบันยังไม่มียาใดที่ทำให้โรคนี้หายขาดได้ ถึงแม้ว่ายาต้านไวรัสจะมีประสิทธิภาพสูง ในรายที่เป็นเริมถี่มากกว่า  6 ครั้งต่อปี ควรปรึกษาแพทย์ ซึ่งจะพิจารณาใช้ยาต้านไวรัสขนาดต่ำ เพื่อป้องกันการการกลับเป็นซ้ำหรือลดความถี่ของเริม 

Thank
C;คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล (http://www.si.mahidol.ac.th)
     http://www.108health.com
P;internet

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น