เพราะเดี๋ยวนี้ คลินิกเสริมความงามผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ทั้งเลเซอร์ลบรอยดำ, รักษาฝ้า, กำจัดขน หรือแม้แต่กระชับผิวหน้าให้เต่งตึง ก็สามารถทำได้ง่าย ทำได้เร็ว …. ทว่าการเสริมสวยใกล้ตัว ที่แม้จะขึ้นชื่อว่าทำในคลินิก จะปลอดภัยแน่หรือแล้วเราจะลดความเสี่ยง/ผลข้างเคียงจากการทำได้อย่างไร ? วันนี้เรามีคำตอบ ซึ่งเป็นความรู้ที่ได้จากนายแพทย์อุดมศักดิ์ วงศ์ปารมี อนุกรรมการประชาสัมพันธ์ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ท่านเคยให้ึความรู้ไว้
คิดทำทรีตเมนต์-เลเซอร์ ต้องระวังอะไร
“ในปัจจุบันเทคโนโลยีเกี่ยวกับความงาม นอกจากเลเซอร์แล้ว ยังมีเทคโนโลยีชนิดอื่นที่นำมาใช้ เช่น IPL (Intense Pulsed Light) หรือการใช้แสงความเข้มข้นสูงเพื่อช่วยให้หน้าขาวใส ส่วนอีกชนิดที่นำมาใช้กันเยอะ คือ การใช้คลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ช่วยยกกระชับผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าตึง”
คนที่คางย้อย ๆ ก็สามารถยกขึ้นได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่เมื่อฟังคำโฆษณาเพลิน ๆ เราอาจเห็นแต่รูปที่สวยงาม เวลาเข้าไปคลินิกเหล่านี้ก็หวังว่าจะสวยงามอย่างที่เห็นในโฆษณา แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลัง ความงามนั้น อาจมีบางมุมที่ซ่อนอยู่ เหมือนเหรียญอีกด้าน ซึ่งหากพิจารณาไม่ดี บางคนอาจต้องพบผลข้างเคียง เช่น
-ทรีตเมนต์ IPL อาจเกิดรอยไหม้ดำ, รอยแผลเป็นนูน หรือที่เรียกว่า คีลอยด์ (Keloid) ได้
-เลเซอร์กำจัดไฝ สำหรับบางคนที่มีประวัติว่าเป็นแผลง่าย หากไปทำการรักษาดังกล่าวอาจก่อให้เกิดแผลเป็นนูนได้ง่าย ซึ่งกรณีดังกล่าวหากคุณไปทำการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์จะแนะนำคนไข้ก่อนว่า ไม่ควรทำในตำแหน่งที่เกิดแผลเป็นได้ง่าย
-เลเซอร์ลอกผิวเพื่อรักษาฝ้า หากทำโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ อาจจะเกิดผลข้างเคียง ทำให้คนไข้ผิวหนังไหม้ พุพอง รวมถึงอาจมีน้ำเหลืองไหลย้อยออกมาได้ ในกรณีที่มีการใช้พลังงาน (ของแสงเลเซอร์) มากเกินไป
-เลเซอร์ลบเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ การใช้เลเซอร์ในกลุ่มของ Q-switched Nd:YAG ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมและโฆษณากันเป็นจำนวนมาก ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้คือ ในบางรายอาจพบว่า คนไข้เกิดทั้งจุดขาว และจุดดำบริเวณที่ทำการรักษา สาเหตุเพราะการยิงเลเซอร์ ที่บางจุดได้พลังงานเลเซอร์น้อยเกินไปทำให้ไปกระตุ้นให้ฝ้ายิ่งดำขึ้น ส่วนจุดที่ขาว ก็เป็นเพราะได้รับพลังงานเลเซอร์มากเกินไป ทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีตายไป ผล คือ แทนที่จะหายฝ้า ก็กลายเป็นหน้ากระดำกระด่าง ซึ่งสภาวะอย่างนี้ การรักษาให้สีผิวกลับมาสม่ำเสมอเหมือนเดิมก็เป็นเรื่องยาก
-เลเซอร์กำจัดขน หากใช้พลังงานสูงเกินไป อาจเกิดตุ่มพองใส ๆ บริเวณรอบเส้นขน และเมื่อตุ่มใสหายไปจะเกิดเป็นแผลดำเป็นระยะเวลานานกว่าจะกลับมาสู่สภาพปกติ เป็นต้น
แพทย์ตัวจริง-อุปกรณ์ได้มาตรฐาน ตัวช่วยให้สวยปลอดภัย
คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง อธิบายต่อว่า หลักการเบื้องต้นที่จะลดความเสี่ยง จากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการรักษาด้วยทรีตเมนต์หรือเลเซอร์ต่าง ๆ คือ การเลือกรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวจริง
วิธีการง่าย ๆ ที่จะป้องกันผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น คือ เราต้องไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ นั่นคือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง ซึ่งหลังเรียนจบแพทย์ 6 ปีแล้ว ต้องใช้เวลาฝึกอบรมอีก 4 ปี (ฝึกอบรมด้านอายุรกรรม 1 ปี และด้านผิวหนังอีก 3 ปี) หลังจากผ่านการฝึกอบรมจบแล้ว ก็ต้องไปสอบเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ถ้าสอบผ่านได้วุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาตจวิทยา (ผิวหนัง) จากแพทยสภา ถึงจะได้เป็นแพทย์เฉพาะทางผิวหนังได้ แต่ปัจจุบันหากเราไปในบางคลินิก เราอาจจะได้เจอแพทย์ที่เป็นแพทย์จบใหม่ คือ เรียนจบแพทย์ 6 ปี ก็ถูกจ้างมาตรวจตามคลินิก ซึ่งแพทย์ที่จบใหม่ ๆ นี้ อาจมีความรู้ไม่เพียงพอ ทำให้มีโอกาสเกิดความผิดพลาดจากการรักษาต่าง ๆ ได้
แต่หากเป็นแพทย์เฉพาะทาง ที่ไปเรียนต่อยอดด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นสถาบันในประเทศหรือต่างประเทศ (จนได้วุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากแพทยสภา หรือ Dermatologist) ก็พอจะเป็นการรับประกันได้ขั้นหนึ่งว่า โอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการรักษาจะเกิดขึ้นได้น้อย
ส่วนคำถามที่ว่าจะทราบได้อย่างไรว่า ผู้ที่รักษาท่านอยู่นั้นเป็นแพทย์จริง ๆ หรือไม่ ขั้นแรก คือ เราสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์แพทยสภา เพื่อตรวจดูขั้นต้นได้ว่า แพทย์ท่านนั้นเป็นแพทย์จริงหรือเปล่าและหากอยากทราบว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือไม่ ก็สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ที่จะมีการรวบรวมรายชื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ที่ได้รับวุฒิบัตรฯ หรือหนังสืออนุมัติ ฯ สาขาตจวิทยา (ผิวหนัง) จากแพทยสภา แสดงไว้ให้ทราบ
อีกส่วนคือ การเลือกเครื่องมือ เน้นว่าเครื่องมือที่ใช้ต้องผ่านมาตรฐานทางวิชาการและความปลอดภัยของอย. (อย.:สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) ซึ่งจะสามารถรับรองได้ในระดับหนึ่งว่าผลข้างเคียงน้อย แต่แม้ว่าเครื่องที่ผ่าน อย.ก็จริง แต่หากแพทย์ผู้ใช้ไม่มีความรู้เพียงพอ ก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงจากการรักษาขึ้นมาได้
จะสวยทั้งที ควรศึกษาข้อมูลดี ๆ ก่อนตัดสินใจทำนะค้าาาา
Thank
C;สมาคมแพทย์ผิวหนัง แห่งประเทศไทย (http://www.dst.or.th)
P;internet
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น