เว็บหนัง พร้อมสาระและความบันเทิงครบครัน
เว็บที่ให้ได้ มากกว่าที่คุณคิด
เว็บอาจโดนบล็อค โปรดกด Like Fanpage เพื่อติดตามที่อยู่เว็บ
ขณะนี้เว็บกำลังปรับปรุง ขออภัยท่านผู้เข้าชม ในความไม่เป็นระเบียบของรูปแบบเว็บด้วยนะคะ ^ ^

ค้นหาส่ิ่งที่คุณสนใจได้เลยจ้า

เพลงแนะนำ ตามกระแส


วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2556

"จี้เย็นด้วยไนโตรเจนเหลว" รักษาอะไร



ปัจจุบันนี้ มีนวัตกรรมเสริมความงามเกิดขึ้นมากมาย การจี้เย็นด้วยไนโตรเจนเหลว เป็นเทคนิคเสริมความงามอย่างหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยม หากคุณต้องการเสริมความงามด้วยการจี้เย็นจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างไร และต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้างหลังการทำ อ่านต่อได้ด้านในจ้า ^^






ไนโตรเจนเหลวคืออะไร 

เป็นของเหลวเย็นจัดอุณหภูมิ - 196 C เมื่อจี้หรือพ่นลงไปบริเวณผิวหนังจะทำให้อุณหภูมิของผิวหนังลดลงอย่างรวดเร็วเกิดผลึกน้ำเยื่อ หลังจากปล่อยให้อุ่นขึ้นเนื้อเยื่อนั้นจะตายจึงสามารถนำมาใช้ทำลายเนื้องอกหรือรอยโรคของผิวหนังได้ 

การรักษาด้วยไนโตรเจนเหลวมีประโยชน์ในกรณีใดบ้าง 

สามารถใช้ไนโตรเจนเหลวในการรักษาโรคทางผิวหนังต่างๆ มากมาย เช่น หูด กระเนื้อ ไฝ กระ แผลเป็น (คีลอยด์) สิวหัวช้าง ปานแดง ผมร่วง การติดเชื้อราในผิวหนังชั้นลึก การติดเชื้อไวรัสบริเวณอวัยวะเพศ และมะเร็งที่ผิวหนัง


การรักษาต้องเตรียมตัวอย่างไร และมีขั้นตอนอย่างไร 

ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวแต่อย่างใด และขั้นตอนในการรักษาก็ไม่ยุ่งยาก โดยแพทย์จะนำหัวพ่นหรือจี้ที่มีขนาดใกล้เคียงกับรอยโรคมาต่อกับอุปกรณ์ควบคุมการจ่ายก๊าซซึ่งมีลักษณะเป็นถังความดันและชุดควบคุมความดัน ในกรณีที่ใช้จี้ก็จะใช้ปลายของหัวจี้ที่ฆ่าเชื้อแล้วแตะไปที่รอยโรคที่ผิวหนัง แต่ถ้าในกรณีที่ใช้พ่น ก็จะใช้หัวพ่น พ่นก๊าซลงไปที่ผิวหนังประมาณ 5-60 วินาที ในแต่ละรอยโรค ขึ้นอยู่กับความลึกที่ต้องการ ในบางครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถทำลายเนื้องอกได้ลึกถึงระดับที่ต้องการ แพทย์อาจจะรักษาซ้ำอีกครั้ง โดยทิ้งช่วงจากครั้งแรก 5-10 นาที

หลังการรักษาจะเกิดอะไรขึ้น 

เมื่อพ่นไนโตรเจนเหลวที่รอยโรคบนผิวหนัง ในขณะที่รอยโรคเริ่มจับตัวเป็นน้ำแข็งจะมีอาการชาและเมื่อภาวะที่เป็นน้ำแข็งหายไป จะมีอาการแสบและปวดเล็กน้อยเป็นอยู่ประมาณ 15 นาที  และ 2-3 ชั่วโมงหลังทำ, รอยโรคบริเวณที่ทำการรักษาจะบวม, แดง และอาจจะกลายเป็นตุ่มน้ำพองได้ใน 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะแห้งเริ่มฝ่อตัวกลายเป็นสะเก็ด และลอกออกภายใน 1-3 สัปดาห์ ทำให้รอยโรคหลุดออกไปพร้อมกับสะเก็ดนั้น เหลือแต่ผิวหนังใหม่ที่มีสีชมพูจาง และสีจะกลับคืนปกติภายใน 3-6 เดือน 

แต่ถ้ากรณีรอยโรคค่อนข้างลึก หลังทำอาจจะทำให้เป็นตุ่มน้ำพองและบวมมากได้ โดยเฉพาะถ้ารอยโรคเป็นที่มือหรือหนังตา ตุ่มน้ำและภาวะบวม เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการของการรักษาและจะค่อยๆ หายไปโดยตัวของมันเอง 

การดูแลหลังการรักษา

ไม่ จำเป็นต้องทำการดูแลรักษาบริเวณที่จี้เป็นพิเศษ ผู้ป่วยสามารถที่จะโดนน้ำ และทำความสะอาดได้ตามปกติ ถ้ากรณีที่เป็นตุ่มน้ำ อาจจะใช้ผ้าก๊อสบางๆ ปิดไว้เพื่อป้องกันการ ระคายเคืองในกรณีที่มีการอักเสบมาก แพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะชนิดทา หรือรับประทานลดการอักเสบ

ในกรณีที่รักษาไม่หาย ควรทำอย่างไร

บางทีการใช้ไนโตรเจนเหลวรักษาเพียงครั้งเดียว อาจจะไม่ได้ผล ให้กลับมาทำซ้ำได้อีกหลังจากแผลหายสนิทแล้ว

Thank 
C;สมาคมแพทย์ผิวหนัง แห่งประเทศไทย (http://www.dst.or.th)
P;internet

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น